วันจันทร์, กรกฎาคม 31, 2549

Director

ความจริงแล้ว ผมว่าผมเขียนเรื่องนี้ไปแล้วนะ แต่ด้วยความคับข้องใจของผม ก็เลยเขียนระบายอีกสักครั้ง
เมื่อวานนนี้ผมไป ถ่ายรูป ให้น้องๆ SIIT ในการซ้อมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ก็เลยได้มีโอกาส คุยกับเพื่อนๆที่จบไปแล้ว อยู่หลายคน เพราะเค้ามาแสดงความยินดีกับน้องๆ แล้วผมก็มีโอกาส ถามเรื่องราวมากมาย รวมถึงเรื่องของ คณะของผมด้วย ความจริงแล้วหลายๆเรื่องที่ผม รู้สึกดีที่มีการเปลี่ยนแปลงในคณะ แต่ก็หลายเรื่องเหมือน กันที่ผมฟังแล้วก็รู้สึกได้ว่า มันแย่สิ่งหนึ่งที่ผม รู้สึกได้ว่ามันแย่ ก็คือ เรื่องการลาออกของ อาจารย์ หลายๆคน เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง ความจริงแล้วการแต่งกาย มันก็โอเคที่จะบอกว่า ควรจะแต่งตัวสุภาพ แต่ผมว่ามันไม่ได้มีเหตุผลที่จะต้องไปบังคับ การแต่งกาย ใน มหาวิทยาลัย ที่เค้าให้อิสระ ในทุกๆอย่าง ผมลองถาม เพื่อนผมที่อยู่คณะอื่นๆ ถ้าเทียบการแต่งการของคณะเราแล้ว ก็รู้สึกว่าคณะเรายังเรียบร้อยกว่าด้วยซ้ำไป เพราะจากการถามเพื่อน JC บัญชีเนี่ย บางคนใส่ขาสั้นไปเรียนก็ยังมี ก็ไม่ได้มีใครว่าอะไร แต่ตรงนี้ผมไม่ได้ใส่ใจ เท่าไหร่ แต่ผมมารู้สึกตกใจตรงที่มี อาจารย์บางคนลาออกเพราะเรื่องนี้ ผมเคยบอกไปแล้ว ครั้งหนึ่งในเรื่องที่ อาจารย์ดีๆภาค IT ลาออก แต่มาอีกครั้งก็อาจารย์สาว IE น่าเสียดายที่ลาออกไป ลาออกไปเพราะเรื่องที่เค้าไม่อยากแต่งตัวให้มันถูกใจ ท่าน Director เค้าอยากจะแต่งเก๋ๆ แต่งเปรี้ยวๆ ให้มันดูสดใส แต่ก็กลายเป็นประเด็นให้ท่าน Director จอมวีน เนี่ยนำมาเป็นเรื่องจนได้ ........ สรุปว่า อาจารย์ดีๆ ลาออก อีกละ ...... ผมจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าเค้าลาออกเพราะเรื่องอื่นๆ ผมนึกไม่ออกเลยว่า ต่อไปคณะจะเป็นยังไง คณะก็คงต้องเปลี่ยนไปตามหัว จริงไม๊ หัวมันไม่ดี หางมันจะไปดีได้อย่างไร ....... หากหัวมันเน่าต่อไป ผมว่า มันก็น่าจะเปลี่ยนหัวใหม่ท่าจะเข้าท่ากว่า

ผมไม่อยากได้หัวที่เก่งแต่ความรู้ แต่ขาดมนุษยสัมพันธ์ ขาดการประสานงาน เพราะการจะเป็นหัวหน้าคน สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการครองใจ ลูกน้องหรือผู้ร่วมงาน

4 Comments:

Anonymous ไม่ระบุชื่อ said...

เท่าที่ได้ยินมาอาจารย์การดีไม่ได้ลาออกเพราะเรื่องเครื่องแต่งกายนะ แต่เป็นเพราะแกแนวไง
อาจารย์เสนอให้ทำห้องเรียนให้เล็กลงแบบระบบที่เมืองนอก โดยจะขอแบ่งเซคของเด็กไออีซึ่งมีอยู่แล้วสองภาค ภาคละสามสิบกว่าคนให้เล็กลงอีก แต่อาจารย์ที่เหลือไม่เห็นด้วยอ่ะ เค้าเลยงอนพร้อมแถมท้ายบอกว่าอยู่ไม่ได้เพราะที่เอสไอ"คร่ำครึ"
พูดตรงๆนะจากที่เคยเรียนด้วย เราว่าเค้าก็ไม่ได้เป็นอาจารย์ที่ดีอะไร ปากจัดด้วย ไม่มีเหตุผลอีกตะหาก แถมยังให้คะแนนตามความชอบส่วนตัว เราโดนมาแล้ว ไม่รู้เค้าไม่ชอบหน้าอะไรเรานักหนา ทั้งๆที่ก็ตั้งใจเรียนนะ ที่แย่ที่สุดตอนพรีเซนต์ซีเนียร์โปรเจคอยู่รอบสุดท้ายต่อหน้าพวกอาจารย์ทั้งภาค เรายังแทบจะไม่ทันพูดอะไรเลย พูดอินโทรไปประโยคเดียวเค้าหัวเราะใส่หน้าลั่นกห้องประชุมเลย ทุกวันนี้เรากับเพื่อนยังงงอยู่ว่าเค้าหัวเราะอะไร แต่จะบอกว่านั่นทำให้เราสติแตกจากที่ประหม่าอยู่แล้วยิ่งไปกันใหญ่ลืมสคริปพูดผิดพูดถูก สรุปเกรดออกมาได้น้อยกว่าพาร์ทเนอร์เพราะคะแนนพรีเซนต์ไม่ดี ยังมีอีกเยอะหว่ะ ขนาดเพื่อนผู้ชายในภาคยังเคยพูดเลยบอกว่านี่ดีนะหน้าตาดีไม่งั้นโดนไปนานแล้ว
จะว่าเราอคติก็ได้ แต่เราโดนเค้าทำไม่ดีใส่มาเยอะจนชอบไม่ลงจริงๆ
พูดก็พูดเหอะ ไอ้เรื่องซอยย่อยคลาสให้เล็กลงไปอีกเนี่ยเค้าทำกันถึงแค่ไฮสคูลเท่านั้นแหละ มหาวิทยาลัยที่นี่บางคลาสเรียนกันเป็นร้อยยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย อีกอย่างที่เอสไอมันก็มีพื้นที่จำกัดจะเอาห้องพร้อมทั้งทรัพยากรบุคคลรวมทั้งอุปกรณ์การสอนที่ไหนมาตอบสนองนโยบายที่พี่แกเสนอมาวะ
เอาหล่ะนอกเรื่องมานานแล้วเข้าเรื่องบ้างดีกว่า
เราไม่เคยเห็นด้วยกับการบังคับการแต่งกายมาตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว เราเชื่อว่าความโง่หรือความฉลาดไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรงผม ทางที่ดีก็น่าจะใช้วิธีปลูกฝังเอาดีกว่าว่าแต่งกายเรียบร้อยเป็นยังไง แล้วที่ควรทำเนี่ยมันเป็นเพราะเหตุผลอะไร ชุดนักเรียนมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุซึ่ง(คนไทยชอบ เพราะมันง่าย)/ แต่ก็อย่างว่าเด็กเดี๋ยวนี้มันก๋ากั่นขึ้นทุกวัน ขนาดชุดนักศึกษายังทำให้เป็นแบบเอ็กซ์ๆได้เลย
ตอนเด็กๆเคยได้ยินครูบอกว่ามันช่วยเรื่องทำให้ความแตกต่างของชนชั้นลดลงเพราะทุกคนต้องแต่งตัวเหมือนกัน แต่กับเด็กที่จนมากๆตามแหล่งกันดารอ่ะ เค้าไม่มีตังค์ซื้อชุดนักเรียน(ชุดนึงราคาไม่ใช่น้อยเลยนะ เปิดเทอมทีโรงรับจำนำแน่นทุกที)เด็กบางคนไม่ไปโรงเรียนด้วยเหตุผลเพียงแค่ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียน
ยิ่งคิดยิ่งเซ็งอะไรคือจุดประสงค์ของการไปโรงเรียนวะ แต่งชุดนักเรียนหรือไปหาความรู้?

10:02 ก่อนเที่ยง

 
Anonymous ไม่ระบุชื่อ said...

รู้ป่าวที่เอสไออ่ะสาเหตุที่ต้องเคร่งเรื่องชุดนักศึกษาเป็นเพราะที่ทางส่วนกลางเค้าคาดโทษมาประกอบกับนิสัยส่วนตัวของการเลียแข้งเลียขาไง
ตอนอยู่ปีสองกำลังนั่งอยู่ในห้องสมุด อ.สวัสดิ์พาอ.จากส่วนกลางเข้ามาตรวจงานในคณะ ส่อแววความเป็น arse licker อย่างเห็นได้ชัด มีนักเรียนคนนึงเดินผ่านมาใส่ชอปไม่ติดกระดุมรองเท้าถูกระเบียบ อ.จากส่วนกลางก็พูดออกมาว่า ที่นี่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลยนะ เท่านั้นแหละความซวยของพี่คนนั้นก็บังเกิดเพราะโดนเรียกไปด่าเรื่องไม่ติดกระดุมชอป (คนอื่นที่นั่งอยู่ก่อนปีศาจเสื้อม่วงเตือนก่อนที่บรรดาท่านๆทั้งหลายจะมาเลยรอด) เห็นแล้วก็แบบนะไม่ค่อยเลยหว่ะ คิดอยู่สองอย่าง
๑. arse licker โคตร (ครับท่านครับ)เดินอย่างผู้ตามสุดๆ
๒. มันจะอะไรกันนักหนากับคณะเราวะได้ข่าวคณะอื่นใส่กางเกเล ลากแตะคีบไปเรียนกันด้วยซ้ำ แต่ไม่โดน ซะงั้น ลูกเมียน้อยชิบเป๋ง

10:19 ก่อนเที่ยง

 
Blogger [Ter©] said...

ไอ้เรื่อง อาจารย์ การดี นี่เราไม่ขอพูดละกันเพราะว่า ไม่รู้รายละเอียดมากมาย แต่เราได้ยินมามันเป็นแบบนี้ ... ถ้าเป็นด้วยเหตุผลที่ลาออก ตามที่เธอบอก ก็คงไม่เกี่ยวกะการแต่งกาย ....

ความจริงมันคงไม่ได้มีแค่เรื่องการแต่งกายนะ เราว่าเรื่องอื่นๆก็ถูกบ่นมาเยอะเหมือนๆ กัน ว่า ท่าน Dir นี่ขี้วีนจัดๆ

แต่ว่าก็ว่าเถอะได้ตอนเราทำกิจกรรม นะแทบจะพลีกายทำด้วยซ้ำไป แต่แกกลับไม่ให้อะไรสนับสนุนเลย เพราะเห็นว่ามันไม่ได้สร้างชื่อให้แก่สถาบัน ... เราไม่เข้าใจตรงที่ว่า จะให้มันได้ชื่อเสียงก่อนค่อยให้เงินหรือไงว่ะ มันจะเป็นไปได้เหรอ มันก็ต้องมีเงินสนับสนุนก่อนดิ ค่อยลงมือทำได้ สมองมีแต่แพ้อุปกรณ์ นี่เป็นอะไรที่เคืองสุดๆ

กลับมาว่าเรื่องการแต่งกายก็อย่างที่บอก จะอะไรกันหนักหนาว่ะ คณะอื่นยังมากกว่าเราตั้งแยะ -*- วู้ อารายของเค้าว่ะ

4:10 หลังเที่ยง

 
Anonymous ไม่ระบุชื่อ said...

โว้วว เพิ่งหาบล็อกพี่เตอร์เจอ

เข้ามาเพราะคาดว่าจะได้อ่านอะไรเพ้อๆ เหมือนที่พี่เขียน mouse 555

12:58 หลังเที่ยง

 

แสดงความคิดเห็น

<< Home