วันจันทร์, กรกฎาคม 18, 2548

2 เดือนครึ่ง กับชีวิตที่ NSTDA

ผมเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วหากนับมาจนถึงปัจจุบัน ผมพบว่าอะไรกันนี่มันล่วงเลยมากว่า 2 เดือนและอีกไม่กี่วันก็ 3 เดือนแล้วสินะ ผมลองนั่งย้อนมองอดีตที่ผ่านมาว่า ผมได้อะไรไปบ้างจาก CCP-NSTDA ผมกลับพบว่า ผมค้นพบตัวเองว่า ผมไม่ชอบงานแบบนี้เอาซะเลย และถึงแม้ผมจะหาข้อดีที่มากมายอยู่ในงาน หรือเหตุผลต่างๆมาสนับสนุนต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นโอกาสก้าวหน้า เงิน หรืออะไรก็ตาม ผมกลับพบว่ามันไม่อาจจะ ทดแทนสิ่งที่เรียกว่า ความสุขจากการได้ทำในสิ่งที่เรารักได้เลย การทำงานที่นี่ ไม่เหมือนอย่างที่ผมคิดไว้เลย ผมไม่ได้หมายความว่าสภาพแวดล้อมหรืองานที่ได้ทำ แต่ผมหมายถึง การที่ยอมรับการทำงานที่เราไม่ชอบต่างหากละ ผมพยายามจะลองว่าผมจะทนได้สักเืท่าไร กับงานที่ไม่ชอบ ผมพบคำตอบว่า ผมทำได้ ทนได้ แต่มันไม่มีความสุขจากการทำงานนั้นเลย

ผมคิดพิจารณาแล้วว่าที่นี่ไม่เหมาะกับผม และคนอย่างผมก็ไม่เหมาะกะที่นี่ ผมคิดได้ในทันทีว่าผมจะลาออก ผมหันกลับไปถาม พ่อแม่ ของผมเป็นคนแรก ท่านบอกกับผมว่า ทนๆไปก่อนแค่ 1 ปีเองไม่เห็นจะเป็นไรเลย จบมาเงินก็ดีนะลูก มันไม่มีใครหรอกที่สมหวังได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก มันเป็นคำพูดที่ผมฟังแล้วรู้สึกว่า หดหู่ใจทีเดียว ในมุมมองของผม ผมพอจะเข้าใจว่าทำไมท่านถึงได้คิดแบบนี้ ท่านคงอยากให้ผมมีงานที่ดีๆทำ มีรายได้ที่ดี และคงมองโลกของความเป็นจริง ....... ผมกลับไปถามเพื่อนๆ ก็ได้คำตอบว่าแล้วแต่มึงสิ แต่มีบางคนที่ตอบว่า ลาออกเถอะ นั่นก็คือ ปั้น ... เธอคงจะเข้าใจเราเหมือนที่เราเข้าใจเธอนั่นเหละว่าทำไมเธอถึง ปฎิเสธรับทุนซึ่งเป็นเงินที่มากถึง 1.5 ล้านบาท ผมว่าสิ่งที่คุณทำมันยิ่งใหญ่จริงๆ มันเป็นการท้าทายตัวเองจริง ผมนับถือคุณมากถ้าคุณปฎิเสธและทนกับคำพูดต่างๆนานา ที่เข้ามากระทบใจของเธอ ไม่ว่าจะเป็น รักพ่อแม่มั่งไม๊ บ้าหรือเปล่า อะไรแบบนี้ ... ผมขอคารวะในส่ิงทีุ่คุณทำจากใจจริงของผม มันยิ่งใหญ่มากสำหรับผม และสำหรับคนที่ยอมรับในสิ่งที่คนอื่นป้อนให้คุณตลอดเวลามาตลอด โดยไม่มีการปฎิเสธแม้ว่าจะไม่ชอบ อย่างคุณ มันยิ่งใหญ่จริงๆ และผมก็ไปถามพี่ที่คุมโครงการนี้ว่าผมจะลาออก ผมจะไปทำในสิ่งที่ผมฝัน ผมได้คำตอบว่า เอาวิชาหาเลี้ยงตัวก่อนดีไหม อันที่น้องอยากไปเรียนค่อยไป พี่ว่าเกมส์ มันหาเงินยากนะ ... asp.net C# ตอนนี้เงินดีกว่าตั้งเยอะ เมืองไทยมันไม่รุ่นหรอกเกมส์อะ ..... จริงของพี่ครับ แต่ผมยังยืนยันคำเดิมของผม

ขอบคุณครับสำหรับความห่วงใย แต่ผมคงทำตามที่ท่านบอกไม่ ได้ ผมมีความฝันของผม และหากผมหยุดฝันนี้โดยการไม่ตามหาฝันของผม ชีวิตผมคงจะหมดค่าแล้ว

ผมไม่อยากเหมือน ผู้ใหญ่คนอื่นๆ ที่ตอนเป็นเด็กมีฝันมากมาย แต่โตมากลับหยุดฝันตัวเอง เค้ามักจะบอกว่า โลกของความเป็นจริงมันต่างจากโลกของความฝัน ยอมรับความจริงเถอะ .... ผมได้ฟังและผมก็คิดว่า ที่มันไม่เหมือนที่พวกคุณคิดไม่ใช่เพราะว่า โลกของความจริงมันทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะคุณคิดว่ามันทำไม่ได้ เลยหยุดที่จะตามมัน คุณคิดว่ามันจะไม่สำเร็จคุณเลยหยุดที่จะคว้ามัน ....... ผมว่าคุณไม่ได้ทำมันมากกว่า คุณแพ้ตัวเอง

แค่ 1 ปีเอง ....สำหรับผมแล้ว ... เงินทองผมหาใหม่ได้ แต่เวลาผม หามันใหม่ไม่ได้ เงินมันซื้อเวลาไม่ได้
2 เดือนมันเพียงพอแล้วที่ทำให้ผมรู้ว่า มันเสียเวลา .... สิ่งที่ผมได้กลับมา มันยิ่งใหญ่เหมือนกัน นั่นคือการชนะตัวเอง

8 Comments:

Anonymous ไม่ระบุชื่อ said...

คุณทำดีแล้ว เป็นกำลังใจให้

2:15 หลังเที่ยง

 
Blogger bact' said...

go go go

4:27 หลังเที่ยง

 
Blogger bact' said...

ไม่ต้องห่วงเรื่องเจ๊ง


... เพราะยังไงก็ทำอย่างอื่นกินได้อยู่ :P


(ยังไม่ทันได้เริ่ม.. อวยพรได้ดีมาก ๆ)

4:28 หลังเที่ยง

 
Blogger bact' said...

ตกลงปั้นไม่เอาทุน Erasmus แล้วใช่มะ
ไป Warwick แทน ?

4:29 หลังเที่ยง

 
Blogger [Ter©] said...

ครับ ลาออกแน่ๆ แต่รอเวลา..ที่เหมาะสมก่อน

ปั้นตอนนี้เหมือนเค้าจะ ... เอาทุน ... นะ ...ผมว่าเค้าเครียดกับทางบ้าน จนต้องยอมรับเอาทุน ... หลายๆคนอาจจะงงว่าทำไมมันไม่เอาทุน ผมว่าเค้าคงคิดคล้ายๆกับผมนั่นเหละครับ ว่าผมไม่เหมาะกะมัน ให้คนอื่นที่มีความตั้งใจและอยากได้จะดีกว่า

11:23 ก่อนเที่ยง

 
Blogger bact' said...

แต่พูดถึงไปเรียน แล้วต้องใช้เงินทางบ้าน 1.5 ล้านนี่ (นี่แค่ค่าเรียน มีค่าอื่น ๆ อีก) เครียดนะ

คือคิดนานมาก ตอนนั้นที่ไป
มันมีอีกที่ถูกกว่า แต่อยากเรียนที่นี่มากกว่า
คิดโน่นคิดนี่อยู่นาน จนพี่สาวบอกว่า อยากเรียนอะไรก็เรียนเหอะ เรื่องเงินนี่พอไถ ๆ ช่วย ๆ ได้
อย่าให้มันเสียเวลาเป็นใช้ได้
สรุปที่บ้านก็ไปยืม ๆ เค้ามาส่งควายเรียน...

จะบอกว่าได้ตัดสินใจแบบที่อยากทำมันก็ใช่
แต่จะบอกว่าหลังจากนั้นไม่เครียด ก็ไม่ใช่อ่ะ

มี 1.5 ล้านอยู่ในหัว แบกอยู่
สามเดือนแรกนี่ไม่ไปไหนเลย ซื้อของทีนี่คิดแล้วคิดอีก โคตรบ้า ชีวิตหดหู่
จนหางานร้านอาหารทำได้นั่นแหละ ค่อยหายเครียดไปหน่อย

ถ้าพูดถึง ไม่แน่ ปั้นมันอาทจะนึกถึงทางบ้านด้วยล่ะ ว่าต้องส่งต้องอะไร ก็เป็นไปได้
หรือไม่ก็อีกอย่าง อาจจะคิดว่า ถ้าต้องไปเีรียน แล้วต้องประสาทเสียนึกถึงว่าที่บ้านส่งอยู่ แพง ฯลฯ ก็อาจจะกดดันตัวเองเกินไป

เลยเลือกไปแบบสบาย ๆ ไม่เดือดร้อนทั้งทางบ้าน ไม่กดดันตัวเองรึเปล่า ?

เห็นว่ายังไงก็จะเรียนต่อหลังจากนี้ด้วย
ไปเรียนสาขาที่ชอบหลังจากนั้น ... แบบเรียนไปทำงานไป หาทุนตอนนั้นน่าจะง่ายกว่า (เอกมันทุนเยอะกว่าโท)


นี่ถ้าเอาคำถามนี้ไปถามไอ้เอ็กซ์ ก็จะตอบอีกอย่าง
นี่ขนาดบ้านเดียวกันนะเนี่ย
(อย่างไอ้เอ็กซ์นี่ ถ้าต้องจ่ายตังค์มันไม่เรียนแน่ ๆ)

3:15 ก่อนเที่ยง

 
Blogger [Ter©] said...

มันก็ด้วยเหละครับ ... เงินตั้ง 1.5 ล้านบาทหนักหนาเอาการ ... พ่อแม่ก็ต้องหาเงินช่วยส่งเยอะ .. เค้าเครียดกับตรงจุดนี้ไงครับ เลยตกลงว่าไป .. ถ้าถามเอาจริงๆอยากไปไหม เค้าไม่อยากไปหรอกครับ ... ผมก็มองคนละมุมกันนะครับ ถ้าเป็นผมโดนสภาพแวดล้อมกดดันอย่างหนัก ... แล้วแบบที่ต้องโดน คำว่า "สงสารพ่อแม่มั่งไม๊" .. "รักพ่อแม่มั่งหรือเปล่า" เป็นผมคงบ้าแน่ๆ ... เท่าที่เข้าใจเทียบบ้าน ผมกับบ้านเค้าแล้ว บ้านเค้าเผด็จการมากๆ แต่บ้านผมประชาธิปไตย สุดโต่ง ผมเลยอาจจะมองมุมมองอีกแบบ

ก็เหมือนตอนนี้ผมก็เครียดนะครับว่าถ้าผมไปเรียนต่อที่ Aus แบบที่ตัวเองต้องการ พ่อแม่ก็คงลำบาก ... แต่ถ้าผมอยู่เอาทุนต่อ ผมว่ามันก็ืทำร้ายตัวเอง มันเสียเวลานะครับ ในเมื่อเรารู้แล้วว่า สิ่งที่เราทำมันไม่ใช่ ... นานา จิตตัง .. แต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดก็คือว่า ถ้าผมต้องให้พ่อแม่ลงทุน 1.5 ล้านบาทในการเรียน ผมก็ต้องเรียนมาแล้วทำเงินให้มันมากกว่า 1.5 ล้าน

แล้วอักประเด็นที่ผมเทียบกับตัวเองก็คือว่าผมทำงานที่ NSTDA มา 3 เดือนแล้ว ... มันพบว่าไม่ใช่ที่ชอบเลย ... ลองเทียบกับปั้น ที่ต้องไปเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบถึง 1 ปีครึ่ง ผมว่าเค้าอาจจะไม่มีความสุขก็ได้ ... แต่พ่อแม่ก็คงมีความสุขนะ

4:34 หลังเที่ยง

 
Blogger bact' said...

ตอนนั้นก็คิดแบบนี้เลย
ว่าจบแล้วจะต้องหาให้ได้มากกว่าค่าเรียน
... ตอนนี้ยังรับเงินเดือนต่ำอยู่เลยว่ะ :P

เมื่อไหร่จะมีไอเดียเด็ด ๆ ไปล่อเงิน VC มั่งเนี่ย
เืผื่อจะเป็น Google มั่ง :P

6:34 หลังเที่ยง

 

แสดงความคิดเห็น

<< Home