วันศุกร์, เมษายน 28, 2549

โกงข้อสอบ

จากข่าวที่ผมอ่านละสอบถามจากคนอื่น ในที่สุดผลของการ โกงข้อสอบ ก็คือ A .. สถาบันเราทำไมเป็นเช่นนี้ละ จะโทษอาจารย์ เหรอ ผมว่าก็ไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่ ลองนึกย้อนดีๆ แล้วเราต้อง ตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า ทำไมต้องโกง คำตอบนั้นก็แสนจะง่าย เพราะว่าอยากได้คะแนนที่ดีๆ ... ทำไมสถาบัน หรือ สภาวะ รอบข้างมันทำให้เกิดเหตุการแบบนี้ได้ละ มันยากมากเลยเหรอ ข้อสอบเนี่ย ( ก็ยากสิวะ ) อ้าว ถ้าไม่ยาก จะออกมาทำห่าอะไร ให้มันผ่านทุกคนดีกว่าไม๊ ให้มันเป็นวิศกร กันทุกคนดีกว่าไม๊ แล้วเวลาตึกมันพัง ออกแบบโปรแกรม ไม่ดี คุณจะโทษใคร ถ้าไม่โทษ วิศกร หรือคนออกแบบ คุณก็ต้องบอกว่า โปรแกรม มันห่วย ตึกมันออกแบบห่วย ไอ้วิศวะกรกระจอก .... อยากให้วิศวะ แบบนี้เต็มบ้านเต็มเมืองใช่ไม๊ เวลาทำถนน ก็ลดสเป๊ก ลดเหล็ก โกงกันเข้าไป ..... ถนนพัง ง่าย คุณก็โทษใคร .. สรุปว่าเค้าออกข้อสอบมายากเนี่ยก็เพื่อให้มันมีการวัดว่า ใครสมควรจะผ่าน หรือไม่สมควรผ่าน ... ไม่ใช่หรอกหรือ ? เมื่ออยากได้คะแนนดีๆ ก็ต้องทำให้มันผ่าน แล้วทีนี้ไอ้การจะผ่านได้ มันก็ต้องเกิดจาก มันสมอง เกิดจาก การทุ่มเท ไม่ใช่เกิดจาก การเอาเปรียบคนอื่น ความฉลาด มันต้องใช้ให้ถูก ไม่ใช่ใช้เพื่อเอาเปรียบคนอื่น

ประเด็นก็คือ ในเมื่อมันเิกิดเหตุการแบบนี้แล้ว และหลายครั้ง หลายปี คณะทำอะไรบ้าง ....... ผมพบกับคำตอบที่แสนจะผิดหวังคือ ไม่ได้ทำอะไร ผมเห็นการโกงมาตั้งแต่ผมเข้า ปี1. จนถึงปี 4 มีทุกปี และแต่ละปีก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ....... รุ่นน้องผมโดนจับการโกงกว่าครึ่งห้อง .... เพื่อนผมก็โดนจับการโกงกว่า 10 คน .. และรุ่นน้องๆผม อีกหลายกรณี ...... แต่สุดท้ายก็ปล่อยตามเคย

ผมพอจะนึกเหตุผลที่ Dr.Matt เค้าลาออกได้ 1 อย่าง นั่นก็คือ เด็ก SIIT มันโกงกันจะเป็นทำเนียม .... ผมยังจำได้ว่า Dr.Matt เข้ามาแรกๆ เนี่ยจับเพื่อนผม ข้อหา copy code จาก internet และเค้าก็ให้ 0 ..... หลายคนบอกว่าแค่ copy code จาก net เนี่ยนะ ถึงกับให้ 0 .... ก็นั่นเหละครับมันก็คือการลอก นั่นเหละ หรือว่าไม่จริง แต่หลังๆ ผมก็ไม่ค่อยได้เห็น เรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ เพราะคิดว่า เบื้องบน เค้าไม่ค่อยเอาใจใส่ในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่มาเอาใจใส่กะเสื้อผ้านักศึกษา ซะมากกว่า

มันควรจะมีการลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น

ไม่ใช่แค่เขียนไว้ว่า Cheating Mean "F"

แล้วแบบนี้ใครจะอยากทำข้อสอบวะ

วันพุธ, เมษายน 05, 2549

การเมืองของ SIIT.NET

สรุปจากหลายกระทู้ทีี่ผ่านมา

พอจะจับใจความได้แบบนี้


1. วัยรุ่นมันมีอารมณ์ในการเมืองแบบดุเดือด โดยการรับข้อมูลข่าวสาร และวิเคราะห์ที่ผ่านมาจากคนอื่นอีกที และใส่อารมณ์ เข้าไป ดั้งนั้นการตอบคำถามจึงเป็นไปตามลักษณะของการ ตอบกระทู้โดยไม่ได้วิเคราะห์ด้วยตัวเอง และมองมุมเดียว ถ้าหากวิเคราะห์เองมักจะไม่ได้มองถึง ข่าวสารอื่นๆ ร่วมการประกอบ โดยมีการตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่าข้อมูลที่ได้ว่ามันน่าเชื่อถือ แต่ก็พร้อมจะเชื่อข้อมูลใหม่ ที่มาแย้งกับข้อมูลเดิมที่ตนมี.

2. ผู้ใหญ่มันมีตรรกมากกว่า มักจะมองหลายมุมกว่า รับข้อมูลข่าวสารหลายด้าน แต่ก็มักจะคิดว่าตัวเองถูกเสมอเพราะ ใช้่ตรรกของตัวเองนั้น เป็นมาตรฐานของคนอื่น และมักจะแย้งกับคนอื่นได้ด้วยเหตุผลของตัวเอง แต่ผู้ใหญ่มักจะคิดว่า วัยรุ่นมันไม่มีตรรก มันวิเคราะห์ฺไม่เป็น การที่จะยอมรับข้อมูลใหมที่แย้งกับตัวเอง มักจะไม่ยอมรับจากวัยรุ่น แต่มักจะไปยอมรับข้อมูลใหม่จากผู้ใหญ่เหมือนกัน ... ทั้งที่ข้อมูลก็เหมือนกัน


สิ่งที่น่ารังเกียจของผู้ใหญ่และวัยรุ่นคือ
วัยรุ่น.... ด่าอย่างเดียว กูไม่สนใจ ไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น มึงไม่เห็นด้วยกะกูมึงโง่
ผู้ใหญ่ .... กูถูกเสมอโว้ย กูมันใหญ่ใครๆก็รู้จักกู กูเล่นมานาน พวกกูเยอะ พวกมึงอย่ามาแบ่งแถวนี้

น้อยคนนักที่จะวางตัวเป็นกลาง (ผมเองก็ไม่เป็นกลาง)