วันจันทร์, กรกฎาคม 25, 2548

เป็นอาจารย์มันยากนะ

วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้ทำงานหารายได้พิเศษ อะไรนะหรือครับ.. ผมก็ไปเป็นติวเตอร์สอนภาษา C ให้กับเด็กปี 1 จริงๆแล้วผมเคยทำงานแบบนี้มาตอนปี 2 แล้วแต่ครั้งนั้นผมกับอีกที่ รายได้ค่อนข้างดีแต่ผมรู้สึกว่าผมได้น้อยเกินไปพูดง่ายๆคือเหมือนโดนเอาเปรียบ ผมเลยไม่ทำต่อ จนมาถึงเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ผมเห็นว่าตอนเย็นมันมีเวลาว่าง(ก็งานที่ทำประจำมันไม่มีอะไรให้ทำอะ) เลยไปสมัครเป็นติวเตอร์ที่ Apogee ไป ผมก็ได้งานมาแล้วก็เริ่มงานในวันต่อมาทันที ... รายได้ 2 สัปดาห์ที่ทำเกือบจะเท่าๆกับงานประจำ ... ผมลองมาเทียบกับอีกคนที่มันมีสอนทั้งวัน 8 ชม. สัปดาห์ละ 5 วัน ผมทำแค่สัปดาห์ละ 3 ชม.ยังได้เดือนละ 6000 .. ถ้าสอนทั่งวัน สัปดาห์ละ 5 วัน โอววว รายมันจะเท่ากับผู้บริหารเลยนะ ....

เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาเด็กก็จะสอบกันเค้าก็เปิด short course ให้ผมอีก คนมาลงเรียน 20+ คนแต่เค้าแบ่งเป็น 2 ห้อง อีกห้องผมไม่ได้สอนเพราะมีคนมาสอนแล้ว นั่นก็คือน้องตั๋งนั่นเอง .. ผมสอนไปได้ 1 ชม.ครึ่ง ผมก็ให้พักตามปกติ ... พี่เชอร์รี่ก็มาบอกกับผมว่า "เตอร์ พี่มีข่าวดีค่ะ... คือน้องๆอีกห้องจะย้ายมาเรียนกับเตอร์ วันพรุ่งนี้นะ ... เค้าประท้วงพี่อะ..เค้าบอกพี่ตั๋งสอนไม่รู้เรื่อง" .... คิดแล้วก็สงสารไอ้ตั๋งมัน .. แต่เราก็สงสารน้องๆเค้าด้วย เสียเงินมาทั้งที แต่เรียนไม่รู้เรื่องอีก ... ไอ้ตั๋งมันเก่งนะ ... ผมว่าบางทีมันอาจจะเก่งกว่าผมอีก แต่มันดันสอนไม่รู้เรื่อง .... มันก็คงจะเหมือนอาจารย์มหาลัยบางคนนั่นเหละครับ จบ ดร. เกรียตินิยม มาแต่สอนสุนัขไม่รับประทาน ... ผมว่าใครๆก็ต้องเจอแบบนี้มั่งเหละ

ผมคิดว่าผมไม่ได้เก่งนะ แต่ผมคิดว่าผมถ่ายทอดอะไรให้เข้าใจได้ง่ายๆ มันเลยเข้าใจง่ายมั้ง แต่การที่เค้าย้ายมาทำให้ผมต้องสอนมากขึ้น เหนื่อยวะสอน 3 ชมเนี่ย เกิดสอนทั้งวันโอ้ยยย ตาย .... บางครั้งเค้าไม่เข้าใจที่ผมสอน ผมก็ต้องอธิบายซ้ำหลายๆรอบ ... บางทีก็นึกในใจ..ทำไมมันไม่เข้าใจซักทีวะ ... ผมว่าอาจารย์ก็คงมีความรู้สึกแบบนี้เหละ ... แต่ความรู้สึกดีๆที่ได้ก็เยอะ ..ผมอยากให้เค้าได้จริงๆ .. ผมตั้งใจจริงๆ รู้สึกดีครับเวลาเค้าบอกรู้เรื่อง เข้าใจ

เป็นอาจารย์มันก็คงมีความสุขตรงนี้เหละมั้ง ... คิดๆไปก็อยากเป็นอาจารย์เหมือนกันนะ .... สอนเด็กมหาลัย..แล้วก็จีบเด็กมหาลัยต่ออีกที... จะดีไม่น้อย

วันอังคาร, กรกฎาคม 19, 2548

My Face


Infernal Affair Posted by Picasa

มีคนบอกว่าผมหน้าเมือนพระเอกคนนี้ ... เค้าชื่อ Leung Chiu Wai ... เป็นพระเอกที่ไม่หล่อ (สรุปคือมันจะบอกว่ามึงไม่หล่อ) แต่เท่ห์มาก ผมก็อยากเป็นแบบนี้บ้าง หลังจากดู Infernal Affairs แล้วหนังเรื่องนี้สนุกมากๆ ผมชอบเค้ามากเลย บทดี เล่นดี นางเอกเรื่องนี้ก็น่ารักมากๆ Kelly Chen หรือ Dr.Lee ใครยังไม่ได้ดูไปหาซื้อ DVD ดูได้เลย .. รับรองแจ่ม

การชนะที่ยิ่งใหญ่คือชนะใจตัวเอง

ในที่สุดผมก็ได้รับรู้ว่า ปั้น เอาทุนจนได้ ... ไม่ว่าการตัดสินใจนี้มันจะถูกหรือผิด .. แต่ในความคิดและมุมมองของผม ผมมองว่า เค้าล้มเหลวเรื่องของการ "ชนะสิ่งแวดล้อม" ... เค้าแพ้ตลอด ผมไม่ได้ว่าเค้าผิดนะ แต่ตอนแรกที่เค้าบอกผม ว่าเค้าจะไม่เอาทุนเพราะไม่ชอบ ผมมองตรงนั้นว่าถ้าคุณทำได้ คุณจะเปลี่ยนไปตลอดชีวิต คุณจะเอาชนะทุกอย่างได้ แต่ในจริงๆของผมก็คิดไว้อยู่แล้วว่า มันจะเป็นไปได้เหรอที่เธอจะทำได้เพราะตลอดชีวิตของเธอ .. เธอไำม่เคยทำอะไรที่เธออยากทำเลย เธอถูกพ่อแม่และสภาพแวดล้อมบังคับมาตลอด ... ผมเชียร์คุณจากใจว่าคุณต้องทำได้สิ ..... แต่คุณก็แพ้ ... คุณแพ้ตัวเอง ....

ในมุมมองของผมพ่อแม่ทุกๆคนอยากให้ลูกได้ดีทั้งนั้นเหละ แต่เค้ามักจะมีสิ่งที่เรียกว่า โซ่แห่งเกรียติยศ ล่ามคออยู่
โซ่ที่ผมบอกคืออะไรนะหรือ ... มันคือสิ่งที่เชิดหน้าชูตาของเค้าไงครับ ลูกซึ่งเรียนอนุบาล อยากจะเรียนดนตรีเพราะชอบตีฉาบ แต่พ่อและแม่กลับมองว่าแค่ตีฉาบมันจะเอาอะไรไปทำมาหากิน มันดีตรงไหนไอ้ตีฉาบ พร้อมกับแนะนำลูกว่าไปเล่นเปียโนดีกว่า ... ทั้งๆที่ลูกอยากเรียนตีฉาบ ... ทำไมไม่ให้ลูกเรียนตีฉาบละ คำตอบก็คือเวลาไปบอกใครว่าลูกตีฉาบเก่งมันไปสู้คนอื่นไม่ได้ โดนเพื่อนๆว่า มันไม่เป็นหน้าเป็นตาเท่ากับเล่นเปียโน ทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็เพราะโซ่มันล่ามไว้จนลามไปถึงลูกๆ ลูกซึ่งไร้เดียงสากลับต้องถูกโซ่ของพ่อและแม่ที่หยิบยื่นให้ล่ามไว้ ...

่สำหรับผม ... ผมแพ้คุณเรื่องการเรียน เรื่องอื่นๆอีกมากมาย แต่วันนี้ผมว่า..ผมชนะสิ่งแวดล้อม พ่อแม่ และที่สำคัญ ผมกำลังจะชนะตัวเอง แค่นี้ผมก็รู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่สำหรับผมแล้ว

ปล. ตอนนี้ชอบเพลง Ebola มากเพลง Getout ท่อนที่บอกว่า "อย่าติดอยู่ในห้องเก่า ให้ใครเค้าตีมากรอบเอาไว้ อย่ามัวนั่งรอ ปล่อยวันผ่านพ้นจนหมดความหมาย ฝันต้องไล่ตาม"

"แค่เปิดประตูมันออกไป ปล่อยใจ ปล่อยชีวิตไปทำอะไรที่อยาก เรื่องราวอีกมากมาย ต้องออกไป ก่อนตาย 1 ชีวิตเวลาอาจมีไม่มากชีวิตไม่มีหยุดต้องออกไป"

วันจันทร์, กรกฎาคม 18, 2548

2 เดือนครึ่ง กับชีวิตที่ NSTDA

ผมเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วหากนับมาจนถึงปัจจุบัน ผมพบว่าอะไรกันนี่มันล่วงเลยมากว่า 2 เดือนและอีกไม่กี่วันก็ 3 เดือนแล้วสินะ ผมลองนั่งย้อนมองอดีตที่ผ่านมาว่า ผมได้อะไรไปบ้างจาก CCP-NSTDA ผมกลับพบว่า ผมค้นพบตัวเองว่า ผมไม่ชอบงานแบบนี้เอาซะเลย และถึงแม้ผมจะหาข้อดีที่มากมายอยู่ในงาน หรือเหตุผลต่างๆมาสนับสนุนต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นโอกาสก้าวหน้า เงิน หรืออะไรก็ตาม ผมกลับพบว่ามันไม่อาจจะ ทดแทนสิ่งที่เรียกว่า ความสุขจากการได้ทำในสิ่งที่เรารักได้เลย การทำงานที่นี่ ไม่เหมือนอย่างที่ผมคิดไว้เลย ผมไม่ได้หมายความว่าสภาพแวดล้อมหรืองานที่ได้ทำ แต่ผมหมายถึง การที่ยอมรับการทำงานที่เราไม่ชอบต่างหากละ ผมพยายามจะลองว่าผมจะทนได้สักเืท่าไร กับงานที่ไม่ชอบ ผมพบคำตอบว่า ผมทำได้ ทนได้ แต่มันไม่มีความสุขจากการทำงานนั้นเลย

ผมคิดพิจารณาแล้วว่าที่นี่ไม่เหมาะกับผม และคนอย่างผมก็ไม่เหมาะกะที่นี่ ผมคิดได้ในทันทีว่าผมจะลาออก ผมหันกลับไปถาม พ่อแม่ ของผมเป็นคนแรก ท่านบอกกับผมว่า ทนๆไปก่อนแค่ 1 ปีเองไม่เห็นจะเป็นไรเลย จบมาเงินก็ดีนะลูก มันไม่มีใครหรอกที่สมหวังได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก มันเป็นคำพูดที่ผมฟังแล้วรู้สึกว่า หดหู่ใจทีเดียว ในมุมมองของผม ผมพอจะเข้าใจว่าทำไมท่านถึงได้คิดแบบนี้ ท่านคงอยากให้ผมมีงานที่ดีๆทำ มีรายได้ที่ดี และคงมองโลกของความเป็นจริง ....... ผมกลับไปถามเพื่อนๆ ก็ได้คำตอบว่าแล้วแต่มึงสิ แต่มีบางคนที่ตอบว่า ลาออกเถอะ นั่นก็คือ ปั้น ... เธอคงจะเข้าใจเราเหมือนที่เราเข้าใจเธอนั่นเหละว่าทำไมเธอถึง ปฎิเสธรับทุนซึ่งเป็นเงินที่มากถึง 1.5 ล้านบาท ผมว่าสิ่งที่คุณทำมันยิ่งใหญ่จริงๆ มันเป็นการท้าทายตัวเองจริง ผมนับถือคุณมากถ้าคุณปฎิเสธและทนกับคำพูดต่างๆนานา ที่เข้ามากระทบใจของเธอ ไม่ว่าจะเป็น รักพ่อแม่มั่งไม๊ บ้าหรือเปล่า อะไรแบบนี้ ... ผมขอคารวะในส่ิงทีุ่คุณทำจากใจจริงของผม มันยิ่งใหญ่มากสำหรับผม และสำหรับคนที่ยอมรับในสิ่งที่คนอื่นป้อนให้คุณตลอดเวลามาตลอด โดยไม่มีการปฎิเสธแม้ว่าจะไม่ชอบ อย่างคุณ มันยิ่งใหญ่จริงๆ และผมก็ไปถามพี่ที่คุมโครงการนี้ว่าผมจะลาออก ผมจะไปทำในสิ่งที่ผมฝัน ผมได้คำตอบว่า เอาวิชาหาเลี้ยงตัวก่อนดีไหม อันที่น้องอยากไปเรียนค่อยไป พี่ว่าเกมส์ มันหาเงินยากนะ ... asp.net C# ตอนนี้เงินดีกว่าตั้งเยอะ เมืองไทยมันไม่รุ่นหรอกเกมส์อะ ..... จริงของพี่ครับ แต่ผมยังยืนยันคำเดิมของผม

ขอบคุณครับสำหรับความห่วงใย แต่ผมคงทำตามที่ท่านบอกไม่ ได้ ผมมีความฝันของผม และหากผมหยุดฝันนี้โดยการไม่ตามหาฝันของผม ชีวิตผมคงจะหมดค่าแล้ว

ผมไม่อยากเหมือน ผู้ใหญ่คนอื่นๆ ที่ตอนเป็นเด็กมีฝันมากมาย แต่โตมากลับหยุดฝันตัวเอง เค้ามักจะบอกว่า โลกของความเป็นจริงมันต่างจากโลกของความฝัน ยอมรับความจริงเถอะ .... ผมได้ฟังและผมก็คิดว่า ที่มันไม่เหมือนที่พวกคุณคิดไม่ใช่เพราะว่า โลกของความจริงมันทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะคุณคิดว่ามันทำไม่ได้ เลยหยุดที่จะตามมัน คุณคิดว่ามันจะไม่สำเร็จคุณเลยหยุดที่จะคว้ามัน ....... ผมว่าคุณไม่ได้ทำมันมากกว่า คุณแพ้ตัวเอง

แค่ 1 ปีเอง ....สำหรับผมแล้ว ... เงินทองผมหาใหม่ได้ แต่เวลาผม หามันใหม่ไม่ได้ เงินมันซื้อเวลาไม่ได้
2 เดือนมันเพียงพอแล้วที่ทำให้ผมรู้ว่า มันเสียเวลา .... สิ่งที่ผมได้กลับมา มันยิ่งใหญ่เหมือนกัน นั่นคือการชนะตัวเอง

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 14, 2548

ผมมีหมูมาขาย ...

เมื่อวานโบรกเกอร์โทรมาบอกผมว่า TTA ที่ราคา 32.25 บาทตอนนี้น่าจะขายได้แล้วนะค่ะ ..เพราะตลาดคาดว่าพรุ่งนี้น่าจะลงมาอีก ผมนึกในใจอีกครั้งจริงเหรอวะ .. แต่จริงๆก็คิดไว้แล้วว่าจะขายเมื่อถึงเวลา เพราะตอนนี้ตลาดมันก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ ผมพิจารณาประกอบกับคำชวนของโบรกผมจึงตัดสินใจขายไปทั่นทีที่ 32.25 บาทได้กำไรมา พันกว่าบาทพร้อมกับตลาดปิดที่ราคา 32 บาท. ในใจผมคิดว่าโอ้เยี่ยมขายไปแล้วราคาลงมาอีกด้วย

แต่มาวันนี้ตลาดดัชนีพุ่งอีกวัน TTA จากราคา 32 มาวันนี้ 33 บาท...ผมนึกในใจ โอ้ย..อดใจขายอีกนิดน่าจะได้ถึงสี่พัน สรุปว่าผมขายหมูไปแล้ว แต่อีกใจก็คิดว่า มันก็ดีกว่ารอให้มันตกแล้วค่อยขายละวะ สรุปตอนนี้ผมก็ยังขาดทุนอยู่ ก็ขาดจากไอ้ CSL ตัวเดียวนั่นเหละ ทำถึงกับช้ำมาจนทุกวันนี้

เอาวะอย่าโลภกับมันมากเลยนะ

ยอดคน กับ คนธรรมดา


• ฟ้ามิได้แบ่ง 'ยอดคน' กับ 'คนธรรมดา' ออกจากกัน
ยอดคนจะปรากฏขึ้นเสมอ แต่นั้นมิใช่เพราะ 'ฟ้ากำหนด'
การที่ "ยอดคน"ปรากฏขึ้นได้ เพราะ เขาผ่านการ "ฝึกฝน" และ "เรียนรู้" ที่จะเป็นยอดคน
................................................................
• "อัจฉริยะ" ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แต่เป็นสิ่งที่ ถูกสร้างขึ้นมา ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
คนเก่งได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝน ม้าดี ต้องมีคนขี่มาฝึกฝน ..
นักกีฬาที่ดีต้องมีโค้ชที่ดีมาฝึกฝน
.......................................................
• Don't Look Down Yourself.
อดีตไม่สำคัญว่าเราเป็นใคร สำคัญที่ว่าวันนี้เราต้องการเป็นใคร
จงเคารพนับถือในความสามารถของตัวเอง ยกย่องและให้เกียรติ ตัวเอง
.............................................................
• สมองของคนเราเหมือนพื้นดินที่ว่างเปล่า
เมื่อเราปลูกอะไรลงไปเราก็จะได้ผลเป็นอย่างนั้น .. จงปลูกฝังแต่สิ่งดีๆ
ลงไปในสมอง คำพูดใดๆ ที่เราเคยได้ยินซ้ำๆ ซากๆ เกิน 37 ครั้ง
มันจะกลายเป็น "อุปนิสัย" ของเราทันที
• สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกคือ "สิ่งแวดล้อม"
อย่าปล่อยให้ความคิด หรือคำพูดของคนบางคน มาตัดสินชีวิตของเรา
ในโลกนี้ไม่มีใครมีอิทธิพลกับตัวเรา นอกจากตัวเราเอง
..............................................................
• ชีวิตไม่ใช่เกมส์กีฬา ไม่มีเวลาพักครึ่ง ไม่มีการขอเวลานอก
และที่สำคัญคือ 'เปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่ได้' ไม่มีใครเกิดมา 'ล้มเหลว' มีแต่ 'ล้มเลิก'
.........................................
• คนฉลาด.. ต้องโง่เป็น คนโง่ไม่เป็น..จะไม่มีทางฉลาด
.........................................
• เพียงคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็ทำได้ตั้งแต่ที่คุณคิด
แต่หากคุณคิดว่าคุณทำไม่ได้ คุณก็ทำไม่ได้ตั้งแต่ที่คุณคิด
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์
คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ 'ทางจิต' ที่ ตอกย้ำตัวเองว่า .. ทำไม่ได้
2
• แม้แต่ "คิด" ยังไม่กล้าที่จะคิด แล้วชีวิตจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
จงกล้าที่จะเผชิญความล้มเหลว.. ความล้มเหลวคือครูที่ทดสอบตัวเรา
If you want to have success, you have no choice.
.......................................................................
• มนุษย์ คือจุดศูนย์กลางของเส้นรอบวงที่ไม่มีขีดจำกัด …...
ทำไมมนุษย์เหมือนกันจึงประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน
นั่นเป็นเพราะ มนุษย์แต่ละคนได้รับโอกาสทางความคิดที่แตกต่างกัน
................................................................
• คนสำเร็จมองปัญหาเป็นโอกาส คนล้มเหลวมองโอกาสเป็นปัญหา
คนสำเร็จจะปรับตัวเองไปหาโลกภายนอก
คนล้มเหลว จะให้โลกภายนอกปรับเข้าหาตัวเอง
Team work is less 'E-GO' and more 'WE GROW'
.................................................................
• คนสำเร็จระดับผู้บริหาร เป็นผู้นำขององค์กรต่างๆ ในโลกนี้ กว่า 85%ทั่วโลก
ล้วนแล้วแต่มิใช่คนเก่ง แต่เป็นคนดีทั้งสิ้น
คนเก่ง.. มักจะมี 'อัตตา'
จะไม่ยอมปรับตัวเข้าหาโลก ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
ไม่ยอมรับการพัฒนา..ความรู้ และสิ่งใหม่ๆ 'ปกครองคนไม่ได้'
คนเก่งนั้น..ใช้เวลา 2-3 ปี ก็สอนให้เก่งได้ ..
แต่.. คนดีต้องใช้เวลา 'ชั่วชีวิต' สอนกัน
คนเก่งมักจะขาดความจงรักภักดี ไม่มีความกตัญญู
......................................................................
• "ความรู้" เป็นเพียง "พลังอำนาจแฝง" ชนิดหนึ่งเท่านั้น
"ความรู้" จะกลายเป็น "พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่" ได้ก็ต่อเมื่อ
มันถูกนำ ไปใช้อย่างชาญฉลาดเท่านั้น
..........................................................................
• ฟัง..แต่..ไม่ได้ยิน ได้ยิน..แต่..ไม่เข้าใจ เข้าใจ..แต่..ไม่ลึกซึ้ง
ลึกซึ้ง..แต่..ไม่แตกฉาน แตกฉาน..แต่..นำไปใช้ไม่เป็น !!!
จงนำศักยภาพ และอัจฉริยภาพ ที่ซ่อนเร้นในตัวเรา มาใช้อย่างชาญฉลาด

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 07, 2548

ผิดเป็นครู

จากคุณ เซ็ง แห่ง webboard - settrade.com
========================================
วันนี้ผมพอว่างบ้างแล้วเลย เอาข้อคิดดีๆมาฝากให้อ่านกัน ลองอ่านกันดูนะครับ

การลองผิดลองถูกเป็นกระบวนการเรียนรู้อย่างหนึ่งที่มนุษย์ชอบใช้นักใช้หนา บ่อยๆที่เรามักเรียนรู้จากความเจ็บปวดของนักลงทุนที่หมดตัว และบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสจากตลาดหุ้น เมื่อหน้าเก่าล้มหายตายจากไปก็มักมีหน้าใหม่เอ๊าะๆ วนเวียนเข้ามาในตลาดแห่งความโลภเสมอๆ อย่าว่าแต่นักลงทุนหน้าใหม่เลยบางครั้งนักลงทุนหน้าเก่าที่ช่ำชองก็ยังผิดพลาดจาก Common sense ง่ายๆเหมือนกัน ใครๆก็อยากจะ being perfect แต่มันทำยากเพราะฉะนั้นการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของคนอื่น จึงทำให้เรารู้ทีจะวิ่งบนถนนสายลูกรังหลังฝนตกสายนี้ได้อย่างปลอดภัย

ข้อแรกกฎของการเล่น Margin มากเกินไป

Margin คือการยืมเงินคนอื่นมาเล่นหุ้น คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณทำเงินได้มากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่มัน เหมือน เหรียญที่มีสองหน้าที่ทำให้คุณ ล่มจมได้อีกเช่นกัน ผมว่านะมันไม่เหมาะกับมือใหม่อย่างเด็ดขาด ไม่มีอะไรที่ได้มา ฟรีๆ ในโลกทุนนิยม ถ้าราคาของหุ้นไม่เป็นไปในทิศทางที่คุณคิด เมื่อถูก Force sell นรกก็จะมาเยือน คุณกล้าใช้บัตรเครดิตซื้อหุ้นมั๊ยล่ะ ถ้าไม่ ก็ต้องลองคิดกลับ การที่คุณเล่น Margin ก็เหมือนที่คุณเอาบัตรเครดิตมาซื้อหุ้นนั่นล่ะครับ
คุณอยากเล่นมันคุณต้องติดตามตลาดอย่างไม่กระพริบตา เพราะกำไรหรือขาดทุนเพียงเล็กน้อยก็มีผลกับตัวคุณแล้ว คุณอยากเข้าไปยุ่งกับมันคุณต้องเรียนรู้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณให้ดี อันตราย อันตราย

ข้อสองเกี่ยวกับTip เด็ดตาม TV

คุณอาจจะได้ยิน คนในตลาดมักคุณโม้โอ้อวดว่า ซื้อหุ้นตัวนั้นซิเด็ด ตัวนี้ซิเจ๋ง พอเราซื้อมั่ง ตัวนั้นก็ Dead ตัวนี้ก็เจ๊ง บางทีนักวิเคราะห์ชอบออกมาพูดว่า หุ้นตัวนี้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทเท่านั้นเท่านี้ แม้มันจะจริงแต่อาจจะไม่มีผลกับราคาหุ้นก็ได้ เพราะเขาอาจซื้อไว้แล้ว พอออกทีวี เขาขายให้คุณไปต่อราคาให้กับหุ้นของเขา
เห็นนักวิเคราะห์ทางทีวีชอบนัก หุ้นเด่นประจำวัน ตัวนี้ต้องซื้อ บอกให้ซื้อแต่ไม่เคยสนใจว่าถ้าคุณซื้อแล้วราคามันลง ผลกระทบที่เกิดกับตัวคุณจะเป็นอย่างไร คุณขาดทุน จะไปขอให้แกชดใช้เหรอครับ เขาจะได้หัวเราะแกมเย้ยหยันเอาได้ อยากซื้อเองทำไมล่ะ ซื้อไปก็เสร็จฉันเท่านั้นเอง เชื่อพวกนี้เหมือนเล่นการพนันหรือการเดาราคาหุ้นดีๆนี่เอง
แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่เขาบอกจะเป็นของเสียนะครับ บางทีเขาอาจจะให้ข้อมูลหุ้นบางตัวที่คุณปิ๊งก็ได้ แต่เมื่อได้หุ้นที่คุณปิ๊งแล้วคุณต้องทำการบ้าน คุณต้องรู้ถึงเหตุผลว่าทำไมคุณถึงซื้อหุ้นตัวนี้ อย่าเพียงเชื่อเพราะว่า Fund manager ในทีวีบอกว่าหุ้นตัวนี้น่าสนใจ
ครั้งต่อไปที่คุณได้ยินหุ้นเด่นในทีวี คุณอย่ารีบผลีผลามซื้อมัน คุณต้องศึกษาข้อมูลซะก่อนแล้ว ปรึกษาผู้รู้รอบข้างให้ดีๆ

การเล่น Day trade

ถ้าคุณอยากเล่นแบบซื้อขายหุ้นทุกวัน ต้องคิดให้หนักนะครับ พวก VS (Value stock) ผู้ชอบสีสันของตลาด แต่จะรอบรู้ จะต้องมีเครื่องมือที่เหนือกว่าคนอื่น เหนือกว่านักลงทุนทั่วไป คุณรู้มั๊ยว่าคุณต้องมีค่าใช้จ่ายทำไหร่ถึงจะมีเครื่องมือที่เพียบพร้อม ต้องมีคอม ต้องมีระบบที่เชื่อมโยงกับตลาดแบบ Real time ต้องมีโปรแกรมวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบมือฉมัง หลังจากนั้นคุณลองคำนวณรายจ่ายต่อเดือนดูว่า หลังจากหักค่าคอมแล้วคุณคุ้มกับรายจ่ายที่ต้องจ่ายไปรึเปล่า
สรุปนะครับ ผมว่าถ้าคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีเครื่องมือที่เพียบพร้อมหรือดีกว่า Broker คุณอย่าไปยุ่งกับมันดีกว่าครับ อีกทั้งคุณยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความเครียดอยู่ตลอดเวลา

ข้อผิดพลาดที่สี่ คุณซื้อเพราะคิดว่าหุ้นขณะนี้มันถูกมากแล้ว

บางทีคุณอาจคิดว่าหุ้นขณะนี้ตกมากแล้ว เรียกว่าถูกในรอบ 1 ปีเชียวนะ หรือถ้าเป็นการซื้อของตามห้างอาจจะเป็น Opening Grand Sale หุ้นนะครับ ไม่ใช่ การshopping บางทีนะบริษัทที่เราเข้าไปซื้อหุ้นอาจมีการเพิ่มทุนอย่างมากมายเมื่อ ปีที่แล้วแต่รายได้ไม่เพิ่มขึ้น นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมราคาถึงไม่วิ่ง หรือบางทีในบริษัทพวกกรรมการอาจจะกำลังทะเลาะกันให้วุ่นวาย
แย่งผลประโยชน์กัน เป็นรัฐมนตรีที่กำลังจะถูกปรับออก เลยต้องขายหุ้นทิ้ง ผมไม่ได้กำลังว่าหุ้นพลังงานหรือท่านรัฐมนตรีช่วยนะครับ แต่ใครจะไปรับหุ้นตัวนี้ก็ระวังกันหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวเงินที่จะไปปิกนิกวันสุดสัปดาห์จะต้องไปอยู่ในตลาดหุ้นซะเปล่าๆ
ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงที่จะลงทุนในหุ้นตัวที่เสี่ยงรวยเสี่ยงจน แม้ว่าหุ้นตัวนั้นจะพื้นฐานดี แต่ราคามันลงทุกวัน อย่าลืมว่าคุณอยู่ในตลาดแห่งนี้อย่าเชื่อใคร ทำการบ้านก่อนการซื้อหุ้นทุกครั้ง ซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานและอนาคตที่ดี จะทำให้คุณไม่ผิดหวัง

ต้องรู้ถึงศักยภาพของตัวคุณให้ดี

ไม่จริงเสมอไปหรอกครับ ว่าหุ้นเป็นเรื่องของมืออาชีพในบางครั้ง ฟันด์เมเนเจอร์อาจทำกำไรสู้ เซลแมนไม่ได้ก็ได้นะครับ นักลงทุนรายย่อยน้อยคนนักที่จะศึกษาหุ้นตัวที่จะซื้ออย่างถ่องแท้ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่มักใช้ Common sense และอารมณ์ในการตัดสินใจ
อย่าคิดแต่เพียงว่าคุณไม่ใช่มืออาชีพ คุณสู้เขาไม่ได้ เพียงแต่การเล่นหุ้นไม่ใช่หลักของคุณแค่นั้นเอง คุณควรศึกษาและพัฒนาศักยภาพตัวคุณเองของทุกอย่างเรียนทันกันครับ ผมคนหนี่งล่ะที่เคยคิดว่า กองทุนจะทำกำไรให้ผมได้มากกว่า ผมเลยซื้อกองทุนดู ผมไม่ขาดทุน แต่กองทุนที่ผมซื้อไว้ยังติดลบอยู่ 10% โดยประมาณ จากนั้นผมก็ไม่เคยคิดว่ากองทุนจะมาเล่นหุ้นเก่งกว่าผมอีกเลย

ก่อนซื้อหุ้นคุณควรมองภาพรวมภาพใหญ่ให้ชัด

สำหรับนักลงทุนระยะยาว สิ่งหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งเรามักมองข้ามคือ คือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือมองภาพรวมภาพใหญ่แนวโน้มในการทำกำไรของบริษัท ครั้งหนึ่ง ปีเตอร์ ลินซ์ เคยกล่าวไว้ว่า ครั้งหนึ่งเขาพบกลยุทธ์ที่ดีในการลงทุนโดยการมองไปที่ของเล่นของเด็กๆ และมองไปถึงแนวโน้มของมันว่ามันควรจะไปในทิศทางไหน บางครั้ง Brand name ก็สำคัญ เพราะชื่อเสียงมันทำให้สินค้า **** ของมันเองได้ในระยะยาว เช่น Coke ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่รู้จักมัน นั่นมันทำให้สินค้าตัวนี้มีค่านับพันล้าน หรือเรียกได้ว่าทำให้มันหากินไปได้ชั่วชีวิต
แต่ถ้าโลกเปลี่ยนไป หรือที่เราเรียกว่า Trend เปลี่ยน มันอาจจะทำให้มีผลต่อตัวสินค้า หรือบริษัท ถ้าคุณยังดื้อแพ่งถือหุ้นต่อ คุณจะกลายเป็นผู้แพ้ในไม่ช้า ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมี Computer เข้ามาในปี 1980 Trend ของบริษัทพิมพ์ดีดก็เปลี่ยนไป หรือ ดูอย่างกล้อง ดิจิตอลนั่นปะไร ทำให้บริษัทที่ผลิตฟิล์มก็ต้องปรับตัวครั้งใหญ่เช่นกัน

เรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตัวคุณเอง

ต้องยอมรับว่านักลงทุนทุกคนก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีจิตใจและอารมณ์นั่นเอง ทุกคนมีข้อผิดพลาด เมื่อเรารู้ว่าการตัดสินใจของเราผิดพลาดไปแล้ว เราต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน ถ้าผิดต้องรู้ว่าผิด ต้องรู้ว่าจะเฉลี่ยเมื่อไหร่ หรือว่าจะเปลี่ยนตัวเล่น
ข้อคิดอย่างหนึ่งก็คือว่า ความสามารถของบริษัท ย่อมไม่เกี่ยวกับวิกฤตที่ทำให้ราคาตกต่ำ ณ. เวลานั้นคุณต้องคิดให้หนักว่าจะลงทุนต่อ หรือเปลี่ยนตัวเล่น ถ้าบริษัทยังมีอนาคตที่ดี ก็เชื่อมั่นในตัวเองเถอะครับ แต่ถ้าไม่ล่ะก็ยอมจำนน เชื่อผมเถอะรู้ผิดเป็นครู แล้วครูคนนี้จะทำให้เรารอดจากวิกฤต

สรุป
อย่ามองด้านเดียวว่าคนที่อยู่ในตลาดหุ้นสามารถทำกำไรได้มากมายในระยะเวลาอันสั้น มีได้ก็ต้องมีเสียครับ คงไม่มีข้อแนะนำอะไรที่สามารถทำให้คุณเรียนรู้ถึงความเจ็บปวดของผู้แพ้ในระยะเวลาอันสั้นๆหรอกครับ ไม่มีที่นั่งสำหรับผู้แพ้ในตลาดแห่งนี้ สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับผู้ลงทุนระยะยาว คือคุณต้องลงทุนอย่างมีเหตุผล และอยู่กับกลยุทธ์ที่คุณถนัด ถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถทำกำไรสั้นๆ และรวยอย่างรวดเร็วในตลาดหุ้น โดยที่คุณเอาเงินของคุณไปเสี่ยงเหมือนเล่นการพนัน คุณไปปอยเปตเถอะครับ หาบ่อนเขมรดีๆแล้วไปนั่งอยู่ที่นั่นดีกว่า ถ้าคุณคิดจะเสี่ยงในตลาดหุ้นโดยคิดว่าที่นี่คือบ่อนล่ะก็ คุณใช้เอ็นเล่นหุ้นแล้วครับ เพราะสมองคุณจะไม่ทำงานในเวลานั้นเพราะถูกความโลภเข้าครอบงำ พอร์ตคุณจะโตหรือไม่ หรือคุณจะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นหรือไม่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่คุณใช้และการตัดสินใจของคุณแล้วล่ะครับ

สัปดาห์แห่งการสุมไฟ

มันเป็นวันที่ 5 แล้วที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแดงฉานไปด้วยเลือดของแมงเม่านับหมื่นตัว ...เงินนับหมื่นล้านบาท จริงๆอาจจะมากกว่า 5 วัน จากเดิม SET INDEX ที่ 690-700 ร่วงมาอยู่ที่ 635 ณ เวลาที่เขียนอยู่ หุ้นราคาต่ำที่สุดในรอบปี .. หุ้นดีๆราคาถูกมากมาย ... แต่ใครจะกล้าเข้าไปซื้อ..ถูกก็จริงแต่อาจจะมีถูกกว่าให้เห็น หรือบางคนหุ้นในพอร์ตก็ลบกว่า 20 % เหมือนผม คำถามก็คือจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ แต่หลังจากผมขาย CSL ไปผมรู้สึกว่าโอ้ยยยย สบายใจจัง เพราะตอนนี้มันลงมาเหลือ 3.2 แล้ว อย่างน้อยๆ..ผมก็ไม่ต้องเสียเงินไปอีกกว่า 5000 บาท นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ช้าไปแต่ก็นับว่าได้ตัดสินใจถูกต้องแล้ว ผมถามตัวเองอีกครั้งว่าต่อไปนี้จะเชื่อใคร ผมตอบตัวเองได้ทันทีว่าเชื่อตัวเอง คำว่าื "ไม่ขาย ไม่มีขาดทุน" คำนี้มันไม่มีหรอกครับ .. ถ้าไม่ขายก็มีแต่ขาดทุน .. เราต้องกล้าขายออกมา ถ้าถือไว้รับรองเลือดสาดเต็มพื้นแน่ๆ สัปดาห์หน้าผมว่ามันก็คงเป็นแบบเดิมอีก.. ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่กระทบเข้ามาไม่ว่าจะเป็นน้ำมันแพง เงินเฟ้อ ขาดดุล ภัยแล้ง โจรใต้ ปั่นหุ้น ... ไม่มีข่าวดีเลย

แต่ผมกลับเห็นว่าเป็นช่วงของดีราคาถูก ผมซื้อ ไปอีกแล้ววันนี้ TTA 31.75 บาท ... ผมคิดว่ามันคุ้มแม้ว่าตลาดจะเต็มไปด้วยเลือดเพราะผมวิเคราะห์ด้วยปัญญาของผมเองแล้ว หลังจากเชื่อโบรกเกอร์อยู่นาน ต่อไปผมกะว่าจะซื้ออีกตัวในสัปดาห์หน้า... อยากได้ลูกเสือถ้าไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสืออย่างไร .. แต่มันก็ไม่แน่นะผมอาจจะโดนเสือขย่ำก็เป็นได้ .. แต่เอาวะใช้สองคิดแผนก่อนออกไปลุย ดีกว่าวัดดวงมั่วๆเหมือนตอนใหม่ๆ

วันอังคาร, กรกฎาคม 05, 2548

เสียเงินแล้ว .. แต่อย่าลืมประสบการณ์ที่ได้

มันเป็นคำพูดการปลอบใจแมงเม่าอย่างผมจริงๆ แม้ว่าผมจะขาย CSL ไปแล้วจาก 5 บาท ขายไป 3.7 บาท ผมก็ขาดทุนไปแล้วกว่า หมื่นบาท .. แต่อย่างน้อยๆมันก็สบายใจเมื่อเห็นว่าหุ้นที่เราขายไปมันดิ่งลงเหวอีกแล้ว เงินที่เสียไปก็มากอยู่ แต่ผมก็ได้ประสบการณ์ที่ดีกลับมามากเหมือนกัน โดยเฉพาะการคิดก่อนซื้อ แล้วก็ทีนี้ผมก็คงจะหัดวิเคราะห์หุ้นเองดีกว่า .. เชื่อคนอื่นก็เหมือนเอาเงินไปฝากคนอื่นลงทุนนั่นเหละ ... ตอนนี้รู้สึกเหมือนกับว่า จากแมงเม่า .. เราก็กำลังจะหลุดวงจรนี้แล้ว ..

อีกไม่นาน ..

วันจันทร์, กรกฎาคม 04, 2548

[Ter] Blog Template v.1

นั่งนึกๆในใจว่าเราจะแก้ไขไอ้เจ้า blog นี่ได้ยังไงมั่ง .. แก้ได้แต่สีงั้นเหรอ หรือเราจะทำมันทั้งหน้า
แล้วถ้าทำใหม่หมดมันจะเป็น blog ไม๊ละ .. มันอาจจะเป็นเหมือน web ส่วนตัวเลยก็ได้ที่เอาไว้
โชว์พวกผลงานตัวเอง

ช่างมันเถอะจะทำใหม่หมดซะอย่างจะทำไมวะ ... คิดได้ดังนั้นจึงออกแบบใหม่เลยเอาตั้งแต่ต้นเลย
งงกะ css code พอสมควรทำอยู่ 2 วันกว่าจะเสร็จ ..... เฮ้ออ ......

เสร็จแล้วววว โว้ยย แต่ออกจะไร้จุดเด่นไปนิด .. แต่ก็เอาวะ..ง่วงละวันหลังค่อยมาแต่งอีกสักนิดดีกว่า

มันจะมีใครไม๊ที่ทำใหม่เหมือนๆผมเนี่ย ...
ใครอยากเอาไปใช้มั่ง .. ยกมือขึ้นเร็ว